วันที่ (30 มิถุนายน 2566 ) นายนันทวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และนายณัฐ ครุฑสูตร ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมเปิดงาน Amazing Muay Thai Experience ภายใต้โครงการสร้างสรรเส้นทางประสบการณ์ท่อง มวยไทย เพื่อชวนคนรักกีฬามวไทย สัมผัสประสบการณ์ลปะการต่อสู้ กับบรมครูมวยโบราณประจำถิ่น ใน 4 จังหวัด ที่มีอัตลักษณ์เฉพะตัวสร้างคุณค่าส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านวัฒนธรรมเป็นไทย และเพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวทั้งซาวไทยและต่างชาติ ออกเดินทางท่องเที่ยวไปยังภูมิภาคต่างๆ ต่อยอดเศรษฐกิจในประเทศอย่างสร้างสรรค์ ณ สะพานนริศ ริมแม่น้ำตาปี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
นายณัฐ ครุฑสูตร ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรม ททท. กล่าวว่า ททท มีแนวทางการขับเคลื่อนกลยุทธ์ทางการตลาด พลิกโฉมการท่องเที่ยวสู่มิติใหม่โดยวางกลยุทธ์ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยการสร้างคุณค่า และประสบการณ์การท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นผ่านวัฒนธรรมที่แข็งแกร่งของไทย ด้วยซอฟต์พาวเวอร์ (Sofh Power) โดยกำหนดสินค้าท่องเที่ยว 5 F ได้แก่ Food (อาหาร) Fashion (การออกแบบแฟชั่นไทย) Film (ภาพยนตร์) Fight (ศิลปะการต่อสู้) และ Festival (เทศกาลประเพณีไทย) โดยมวยไทย ถือเป็นหนึ่งในชอฟต์พาวเวอร์ของไทย (Fight) ที่โด่งดังไปทั่วโลก เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ของการต่อ ที่ชาวต่างชาติทั่วโลกต่างยอมรับและต้องการศึกษาเรียนรู้
ททท. จึงได้จัดกิจกรรมในพื้นที่ 4 จังหวัด ที่มีศิลปะแม่ไม้มวยไทยที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครราชสีมา อุตรดิตถ์ และ ลพบุรี เพื่อผลักดันให้มวยไทยเป็นสินค้าทางการท่องเที่ยว ส่งผลให้เกิดการพักค้างและเพิ่มจำนวน นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ไปยังพื้นที่และภูมิภาคที่มีการจัดกิจกรรม ก่อให้เกิดรายได้จากการท่องเที่ยว เพิ่มมากขึ้น
โดยกิจกรรม Amazing Muay Thai Experience กำหนดจัดขึ้นใน 4 จังหวัด ได้แก่ 1) มวยไชยา จัดขึ้น ณ สะพานนริศ ริมแม่น้ำตาปี จังหวัดสุราษฎร์ธานี วันที่ 30 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม 2566 2) มวยโคราช จัดขึ้น ณ เซ็นทรัลพลาชา จังหวัดนครราชสีมา วันที่ 14-16 กรกฎาคม 2566 3) มวยท่าเสา จัดขึ้น ณ วัดใหญ่ท่าเสา จังหวัดอุตรดิตถ์ วันที่ 11-13 สิงหาคม 2566 4) มวยลพบุรี จัดขึ้น ณ พระราชวังนารายณ์ราชนิเวศน์ จังหวัด ลพบุรี วันที่ 18-20 สิงหาคม 2566 โดยภายในงานแต่ละจังหวัดจะมีกิจกรรมที่หลากหลายและน่าสนใจ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบศิลปะมวยไทย การสอนมวยให้กับบุคคทั่วไปที่สนใจเรียนมวยไทย 4 ภาค จะมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันไป หมัดหนัก (มวยโคราช) จะมีเอกลักษณ์การแต่งกาย และการคาดเชือกตั้งแต่หมัดไปจรดข้อศอก ออกหมัดเป็นวงกว้างหนักหน่วง ที่เรียกว่า “หมัดเหวี่ยงควาย”โดย ครูเช้า วาทโยธา ฉลาด (มวยลพบุรี) จะมีเอกลักษณ์เป็นมวยที่ชกฉลาด ต่อหมัดแม่นยำ มีการรุกรับที่คล่องแคล่วว่องไวหลอกล่อหลบหลีกได้ดี โดย ครูยะ ส.สุนีย์ ท่าดี (มวยไชยา) จะมีเอกลักษณ์ที่การตั้งท่ามวยหรือการจดมวย ท่าครูหรือท่าย่างสามขุม และการป้องกันตัวแบบ 4 ป. ป้อง ปัด ปิด เปิด โดย ครูกฤดากร สดประเสริฐ ไวกว่า (มวยท่าเสา) หรือมวยพระยาพิชัย เป็นการผสมผสานมวยไทย และมวยจีน ออกหมัดได้ไกล รวดเร็ว และ รุนแรง โดย ครูวรมัน วนันทศานติ ซึ่งในอดีตวิชามวยไทยจะเป็นวิชาที่ร่ำเรียนกันเป็นศิลปะการต่อสู้ในการสู้ศึกสงคราม และป้องกันตัวของเหล่านักรบชายชาตรีร่วมกันป้องกันประเทศชาติ
นอกจากนี้ภายในงาน ยังมีการแข่งขันมวย “ศึกมหัศจรรย์มวยไทย” โดยนักชกคู่เอกในแต่ละพื้นที่ เพื่อชิงถ้วยรางวัล ประกบคู่มวยโดย ครูดาม ศรีจันทร์ เจ้าของผลงานเหรียญทองชื่อดังในอดีต ผู้เชี่ยวชาญเรื่องกีฬามวยไทย และมวยสากล การสักยันต์ โดยอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญ การจำหน่ายวัตถุมงคล และเครื่องรางของขลัง การออกร้านอุปกรณ์มวยต่างๆ คอร์สเรียนมวยไทย อิ่มอร่อยจากการออกร้านสินค้าชุมชนกว่า 20 ร้านค้า และการแสดงต่างๆภายในงาน
……………………………………………………………………………………………………
ทีมข่าวพลังราษฎร์ /กีฬา
