ผู้ว่าฯสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพเยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลาก และติดตามสถานการณ์น้ำกัดเซาะถนน ในพื้นที่ตำบลคลองศก อำเภอพนม เตรียมชงเรื่องขอโยธาฯ เดินหน้าโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งอย่างเร่งด่วน หวั่นกระทบการท่องเที่ยว
วันนี้ (2 ก.ย.66) นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยนายบุญเรือง หลงละลวด หัวหน้าสำนัก งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลคลองศก อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ ธานีเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและเยี่ยมให้กำลังใจผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน โดยมีนายสุเชาว์ ทูโมสิก นายอำเภอพนม และผู้นำท้องที่ท้องถิ่น ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล
สำหรับพื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลคลองศก มีครัวเรือนได้รับผลกระทบ จากน้ำป่าไหลหลากน้ำล้นตลิ่ง ประมาณ 20 หลังคาเรือน มีผู้ได้รับความเดือดร้อนประมาณ 50-60 คน แต่ส่วนใหญ่ มีความพร้อมในการรับมือกับน้ำหลาก
เนื่องจากอาศัยอยู่ใกล้แหล่งน้ำและมีน้ำท่วมเป็นประจำ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้เยี่ยมให้กำลังใจพร้อมกับมอบถุงยังชีพและน้ำดื่ม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น ทั้งนี้หากปริมาณฝนลดลง คาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ภายใน 1-2 วัน
จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เดินทาง ไปติดตามความเสียหายของถนนซอยอุทยาน หมู่ที่ 6 ตำบลคลองศก อำเภอพนม ติดกับ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสก ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่มีโรงแรมและรีสอร์ท ประมาณ 20 ราย และบ้านเรือนประชาชนกว่า 50 ครัวเรือน ล่าสุดถนนและที่ดินของชาวบ้านถูกน้ำกัดเซาะ ลึกเข้ามาประมาณ 5 เมตร เป็นทางยาวกว่า 300 เมตร เบื้องต้นได้ติดตั้งป้ายเตือนผู้ที่สัญจรไปมาให้ใช้ความระมัดระวัง ส่วนแนวทางแก้ไขพื้นที่ดังกล่าว ได้มีการสำรวจและออกแบบ การทำเขื่อนป้องกันน้ำกัดเซาะตลิ่งโดยกรมโยธาธิการและผังเมือง คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดสรรงบประ มาณโดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ ธานีได้เตรียมจะทำหนังสือขอให้ดำเนินโครงการดังกล่าว เป็นโครงการเร่งด่วน เนื่องจากส่งผลกระทบต่อแหล่งท่องเที่ยว และอาจจะเกิดอันตรายกับประชาชนในพื้นที่รวมถึงนักท่องเที่ยวได้
และในช่วงบ่าย ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีลงพื้นที่ บ้านสองพี่น้องหมู่ที่ 1 ตำบลคลองศก อำเภอพนมเพื่อติด ตามสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งท่วม ถนนทางเข้าหมู่บ้าน ซึ่งจุดดังกล่าวมีประชา ชนได้รับความเดือดร้อน ประมาณ 60 ครัวเรือน กว่า 150 คน เป็นลักษณะติดเกาะ เนื่องจากถนนทางเข้าออกทุกทางถูกน้ำท่วมสูง จุดที่ระดับน้ำต่ำที่สุด สูงประมาณ 50 เซนติเมตร
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้มอบหมาย ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ดำเนินการออกแบบการยกระดับถนนให้สูงขึ้น ให้เท่าระดับของสะพาน คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้โดยเร็วเนื่องจาก มีระยะทาง ประมาณ 40 เมตร ใช้งบประมาณไม่สูงมาก แต่จะเป็นประโยชน์ ให้กับประชาชนในพื้นที่ ได้ใช้สัญจรไปมา ในช่วงที่มีน้ำท่วมได้ นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ ธานี ยังได้มอบยาสามัญประจำบ้านเพื่อใช้ดูแลอาการเจ็บป่วยเบื้องต้นให้กับประชาชนในพื้นที่อีกด้วย
……………………………………
ภาพ/ข่าว ปชส.สฎ
